ชวน ๘ (ชวน หลีกภัย)
โดย สีดิน
(ข้อเขียนนี้ผมเขียนไว้นานแล้ว แต่เนื่องจากเห็นว่าดวงชะตาของอดีตท่านนายก ชวน หลีกภัย ดาวพฤหัสบดี ๕ กำลังจะจรทับลัคนาในเดือนพฤศจิกายน 2550 นี้ ก็น่าจะเป็นโอกาสดีอีกครั้ง สำหรับรายละเอียดดวง ผมจะนำมาลงให้ทราบวันหลังครับ ลัคนาของท่านสถิตราศีธนู)
เหนือแผ่นดินยังมีหย่อมหญ้า เหนือฟ้ายังมีเดือนดาว กล่าวเช่นนี้ ความหลักแหลมของคนจะสูงส่งสักปานใดย่อมมิมีสิ้นสุด ต้องมีผู้ชาญฉลาดเหนือกว่าเสมอ
ดังนั้นการจะมานั่งคร่ำครวญตัดพ้อชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ผู้ซึ่งมีความสามารถกว่า ว่าเป็นผู้มิได้ตั้งมั่นต่อสัตยบัน ย่อมเท่ากับเป็นการประกาศความหลักแหลมของตนเองว่าตกเป็นรอง
อันว่าสัตยบันนั้น ในทุกวงการและทุกยุคสมัย ได้ถูกทำลายกันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน โดยเฉเพาะในแวดวงนักการเมืองบางคน ไม่ต้องดูอื่นไกล เอากันที่ใกล้ ๆ ตัว ต่อข้อความที่ว่า ข้าพเจ้า...จะบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แล้วผลแห่งคำสัตย์ปฏิญาณออกมาเป็นเช่นใด?
ที่ผมต้องถ่ายทอดความจริงนี้ออกมาให้เห็น มิเกี่ยวข้องกับโหราศาสตร์แต่เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่า แม้โหรหรือที่เรียกรวมกันว่าหมอดูนั้น มีสิทธิเสรีภาพที่จะรักแผ่นดินเกิดเหมือนบุคคลทั่วไป คือ อยากเห็นความสงบสุขของบ้านเมือง มีอายุยืนยาวไปกว่านี้ หากมีโอกาสก็ขอแสดงความรักชาติบ้าง...ก็เท่านั้นเอง
ทีนี้ขอท่านผู้อ่านหันมาสนใจเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโหราศาสตร์กันดีกว่า เพราะอย่างน้อยศาสตร์นี้หากนำไปใช้ให้ถูกทำนองคลองธรรม ก็จะมีประโยชน์ไม่น้อย แม้ไม่สามารถรู้อนาคตของตนเองหรือผู้อื่นได้เหมือนตาเห็น ก็ยังดีกว่าคลำทางเอาเองแบบคนตาบอด
เรื่องที่เกี่ยวกับ ท่านนายกชวน หลีกภัย เคยถูกตีพิมพ์ในหนังสือโหราเวสม์มาแล้วหลายตอน ผมเองก็ทำลืม ๆ ท่านไปเสียนาน เพราะเห็นว่าถึงอย่างไรท่านก็เป็นนายกฯ ของท่านไปเรื่อย ๆ แม้จะสะดุดกึก ๆ กัก ๆ บ้าง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของรัฐบาลหลายพรรค แต่ก็คงไม่ถึงกับล้มคว่ำลงไปในตอนนี้ เพราะอย่างน้อยก็ได้พรรคน้าชาติมาเป็นผ้ายันต์กันผีไว้แล้วพรรคหนึ่ง
ก่อนจะถึงวันเกิดของท่านในปี 2537 ตอนนั้นอายุของท่าน 56 ดาวบริวารของท่านเป็นกาลีจร ดังนั้นบริวารจึงมักแหกคอกออกนอกลู่นอกทางทำเอาท่านเสียหายมาจนถึงวันนี้
เมื่อผ่านวันที่ 28 กรกฎาคม 2537 มาแล้ว ก็เท่ากับอายุย่าง 57 นั่นคือราหู (๘) เป็นกาลีจรขึ้นมาทับราหู (๘) ที่เป็นทั้งดาวอายุและดาวเจ้าเรือนเพื่อน เมื่อเป็นดังนี้เท่ากับสุขภาพไม่ดีต้องระวังการเจ็บป่วย คือต้องระวังทั้งการเจ็บตัวโดยไม่ต้องมีป่วยพ่วงท้ายด้วย
แต่ที่ต้องระวังอย่างสุด ๆ คือ เพื่อนเป็นกาลี โดยเฉพาะเพื่อนรักพรรคร่วมรัฐบาลที่เคยร่วมกันทำงานเรียบร้อยดีกลับเกิดอารมณ์ปรวนแปรทำพิษ ถอนพรรคออกไปอย่างไม่เหลือเยื่อใย เท่านั้นยังไม่พอแก่การสนองความกระสัน กลับจะหันมาตั้งตนเป็นใหญ่เสียเอง ทำเอานายกของผมหายใจไม่ออกอยู่หลายวันกว่าจะวางแผนแก้เกมกลับมาเป็นต่อได้
นานมาแล้วราว ๆ กลางเดือน ขออภัยกลางปี 2536 ผมได้เคยเขียนยุให้ท่านนายก แม้จะคับขันอย่างไรก็อย่ายุบสภาเป็นอันขาด เพราะผมเป็นคนขี้เกียจออกไปเลือกตั้งบ่อย ๆ ผมจึงขอขอบคุณท่านนายกเอาไว้เสียตรงนี้ที่อุตส่าห์เชื่อผมไม่ยุบสภาตามที่ผมขอร้อง หากจะมีการคับขันอีกเนื่องจากเพื่อนรักพรรคร่วมที่เหลือ และส่อเค้าความแตกแยกกันเองในพรรคทำพิษ ท่านก็อย่ายุบ...ถ้าไม่ยุบสภาท่านก็จะบริหารประเทศไปได้เรื่อย ๆ จนครบเทอม หรือหากจะต่ออายุไปอีกเทอมก็มิใช่ไม่มีทาง
ดังนั้นจึงใคร่ขอย้ำเตือนไว้อีกครั้ง แต่ท่านผู้มีเกียรติ ใครก็ตามอย่าคิดล้มท่านนายกคนนี้เป็นอันขาด ทั้งนี้เพราะดาวเจ้าเรือนอริคือดาวศุกร์ (๖) ของท่านไปอยู่ในเรือนราหู (๘) แถมมีมฤตยู (๐) ตรีโกณถึงและราหู (๘) เองก็ไปอยู่ในเรือนอริ
ซึ่งหมายถึงศัตรูของท่านต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปเอง หากคิดมิดีมิร้าย ตัวอย่างก็เพิ่งเกิดขึ้นมาระลอกคลื่นยังไม่ทันจางหายดี หวังว่าท่านคงจำได้
ความจริงดวงของท่านนายกฯ มีจุดที่น่าสนใจหลายจุดที่ได้เปรียบคนอื่น แต่ก็มีจุดที่เสียเปรียบเช่นกัน ผิดแต่คนอื่นไม่รู้ทางจะเข้าต่อตี จึงยังหาทางชนะไม่ได้ และจุดดังกล่าวนี้ถ้าไม่มีใครถามผมก็ยังอุบไว้ก่อน เพราะตอนนี้ยังไม่เห็นใครดีเท่านายกชวน หลีกภัยคนนี้
ที่ยกเอาเรื่องนี้ขึ้นมากล่าว ใครจะเห็นผมเอนเอียงอย่างไรก็ไม่เถียง แต่ไม่ใช่เป็นคำขู่มิให้ใครมาแตะต้องท่านนายกชวน หลีกภัย เป็นเพียงการหยิบยกเอาจุดหนึ่งของดวงดาวมาว่ากันแบบตรงไปตรงมา ร้ายก็ว่าร้าย ดีก็ว่าดี เพราะถึงอย่างไรท่านนายกก็ไม่เคยจ่ายค่าบูชาครูอะไรให้ผมแม้สักบาทเดียว หรือจะว่าผมเปิดทางเอาไว้วันข้างหน้าเผื่อจะหาทางเข้าไปเสียบ ก็มิได้เคยคิดเลย จึงขอให้สัตยบันอันเป็นอมตะสัตยบันที่เลิกล้มไม่ได้ไว้ ณ ที่นี้
ทีนี้เราหันมาดูกันที่จุดหนึ่งในดวงของท่านนายกชวน หลีกภัย จุดนี้เป็นจุดน่ากลัวอีกจุดหนึ่ง สำหรับใครก็ตามที่คิดจะเอาชัยทางการเมือง นั่นคือจุดหลังจากวันที่1 ธันวาคม 2538 ไปประมาณ 5 ปีติดต่อกัน
แต่ก่อนจะถึงจุดนั้นขอวกกลับมาถึงรูปดวงชะตาของท่านนายกฯที่ผมทำไว้ในแบบ 10 ลัคนา ตามพื้นดวง ถ้าจะมองกันคร่าว ๆ จะเห็นว่าไม่มีดาวอะไรที่ได้ตำแหน่งดีเลย คือ ไม่มีดาวได้มาตรฐานนั่นเอง
แต่ถ้าพิจารณาให้รอบคอบจะเห็นได้ว่า มีดาวพฤหัสบดี (๕) กับดาวอาทิตย์ (๑) อันเป็นดาวบริวารและดาวศรีสลับเรือนกันอยู่ อาทิตย์ (๑) เป็นศรีมาอยู่เรือนพฤหัสบดี (๕) พฤหัสบดี (๕) บริวารเดิมมาอยู่เรือนอาทิตย์ (๑)ซึ่งเป็นศรี
ดาวพุธ (๔) มนตรีเดิมทางทักษามาครองเรือนกาลีของดาวเสาร์ (๗) ดาวเสาร์ (๗) กาลีเดิมกลับไปครองเรือนของดาวพุธ (๔) ที่ราศีกันย์ และเรือนนี้คือเรือนกรรมะ อีกเรือนหนึ่งที่ราศีเมถุนคือเรือนคู่ และดาวพุธ (๔) ตัวนี้ก็คือดาวคู่ครองด้วย
อีกคู่หนึ่งคือราหูที่เป็นอายุ และเป็นดาวเจ้าเรือนเพื่อน ไปครองเรือนอริของดาวศุกร์(๖) ดาวศุกร์ (๖) มาอยู่เรือนราหู (๘) ดาวศุกร์ (๖) เป็นเดชทางทักษา เป็นดาวเจ้าเรือนอริ และลาภะ
สำหรับดาวศรี มูลละและอุตสาหะอยู่ด้วยกันในราศีธนู ดาวสามดวงนี้เป็นดาวคู่ชิงรักหักสวาทกันมาตั้งแต่โบราณ เล่ากันว่าพฤหัสบดี (๕) ตั้งตนเป็นครูสอนศิลปะศาสตร์มีสำนักของตนเอง มีบุตรสาวคือจันทร์ (๒) ทั้งสวยและน่ารักน่าเอ็นดูอยู่ในวัยกำดัด
พระอาทิตย์ (๑) เป็นศิษย์เอกเฉลียวฉลาด เป็นที่รักใคร่ของเจ้าสำนัก จึงยกบุตรสาวคือจันทร์ (๒) ให้เป็นคู่ครองแก่ศิษย์เอก อยู่มาวันหนึ่งพระอังคาร (๓) ซึ่งเป็นเพลย์บอย มีนิสัยชอบยิงนกตกปลาเคล้าสุรานารีมาพบยอดงามนางจันทร์ (๒) ก็เกิดความพึงพอใจปะเหมาะที่สามีของนางไม่อยู่บ้าน พ่อของนางจะเผลอประการใดประการหนึ่งก็ไม่ทราบ พระอังคาร (๓) จึงรวบรัดตัดความเอานางจันทร์เป็นเมีย พระอาทิตย์ (๑) กลับมาทราบเรื่องจึงเกิดวิวาทขึ้นถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันและกัน
ดังนั้นสามดาวนี้เมื่ออยู่ด้วยกัน ต้องระวังเรื่องบาดเจ็บล้มตาย ยิ่งเมื่อมองดูดาวอายุของท่านนายกครองเรือนอริก็ไม่ค่อยดีนัก อย่างนี้ต้องระวังสุขภาพและสวัสดิภาพของตนไว้ให้จงหนัก นอกจากไม่หักโหมการงานจนเกินไปแล้ว ต้องแคร์กับอันตรายที่จะมาจากภายนอกด้วย อย่าประมาทคิดว่าเป็นคำขู่ไปเสียหมด
โดยเฉพาะในช่วงที่อังคาร (๓) เป็นกาลีจร คือประมาณปี 2543 และช่วงที่ดาวเสาร์ (๗) เป็นกาลีจร 2544-2545 แม้เรื่องของดาวคู่ที่สลับเรือนกันอยู่จะให้คุณบ้าง แต่ก็ไม่เต็มที่นัก ที่เห็นว่าดีอยู่ก็เฉพาะคู่อาทิตย์ (๑) กับพฤหัส (๕) เท่านั้น นอกนั้นพึ่งได้ไม่ถนัด
ยิ่งเมื่อพอผ่านวันเกิดมา บริวารเริ่มดี ดาวเพื่อนก็เป็นกาลีจร งานแรกคือ เพื่อนรักพรรคร่วมตีจากคิดลอยแพท่านนายกฯ ขึ้นมาทันที ดีที่ผู้หลักผู้ใหญ่คือพฤหัสบดี (๕) ที่เป็นมนตรีจรเข้ามาช่วยไว้ทันการ จนทำให้เพื่อนรักตกจากแพไปลอยคอสำลักน้ำเน่าอยู่ดังที่เห็น
แต่หากท่านนายกฯจะประครองเรือ และลูกเรือเกเรชุดนี้ให้ไปได้ตลอด ผ่านช่วงที่พฤหัสวินาศ ลัคนาไปได้จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2538 คือจนพฤหัสเข้าราศีธนูไปแล้ว ท่านก็มีสิทธิ์ที่จะครองแชมป์ได้อีกสมัยหนึ่ง นั่นคือการครองบัลลังก์ ๘ ปี
เพี้ยง ! ขออย่าให้ถึงขนาดนั้นเลย สงสารท่านบัญญัติ บรรทัดฐานเพื่อนรักเพื่อนเกลอที่รอคิวอยู่บ้างเถิด.