เหตุที่บอกว่า13.09
น. นั้นคือเวลาที่เพื่อนบ้านเดินมาเคาะประตู ก๊อกๆๆ จ๊าน ซื้อหวยหรือเปล่า
ผู้เขียน
: มาถามอะไรตอนนี้(ฟะ) นี่มันบ่ายหนึ่งหวยจะออกอยู่แล้วจะไปซื้อที่ไหนทัน
(ที่จริงแกมาชวนประจำแต่ผู้เขียนก็ไม่เคยหลงกลซื้อไปด้วยหรอก เพราะดูดวงตัวเองแล้วไม่ค่อยมีโชคทางนี้
และก็ไม่ชอบเล่นหวยด้วยแต่ เอ๊ะ! ลองจับยามดูหน่อยดีกว่า ช่วงเวลา13.09
น. ตกยามพฤหัสขุมทรัพย์ ชี้ไปที่หัวเสา เข้าทีแฮะ ตำราเขาว่าขุมทรัพย์น่ะมันทันทีทันใด
ทำอะไรก็ตามถ้าได้ยามขุมทรัพย์ก็ได้ผลเร็ว เสร็จเร็ว จะโทรตามหนี้คนถ้าจะให้เจอตัวก็ต้องโทรยามนี้ละ
เคยได้ยินมาว่าหากจะเล่นพนันเสี่ยงโชคถ้าได้ยามแบบนี้มือจะขึ้นมากเลย
แล้วดูเสายามซิ ดีชะมัดเลย ปุตตะ ลาภะ ลาภัง อาตมา อย่างนี้ถ้าอ่านตามยามที่จับออกมาถูก
100% ซื้อได้เลย แต่เอ ! เอาไงดี(ฝ่า) เล่นใต้ดินก็ไม่ดีจะผิดศีล
แต่ถ้าไม่ซื้อก็ไม่ได้สถิติใหม่ซินะ คิดได้อย่างนี้จึงตั้งจิตขออนุญาตคุณครูบาอาจารย์และครูเทพ
ว่าลูกขออนุญาตลองสักครั้งเถอะไม่ได้ตั้งใจจะเล่นหวยแต่ขอลองซื้อเป็นสถิติว่าตกลงจะถูกจริงหรือเปล่า
ครูบาอาจารย์เปิดให้ขนาดนี้แล้ว หากปล่อยให้ผ่านเลยไปเสียดายแย่เลย
คิดได้ดังนี้จึงคำนวณเลขที่คาดว่าล๊อตเตอรี่น่าจะออกมา เพียง 1 ชุดเท่านั้น
คือ 578 ต้องซื้อเลขเดียวใบเดียวไม่มีเผื่อเลขอื่น แต่วิธีการคำนวณออกมาอย่างไรนั้นอันนี้ขออุบเป็นความลับเพราะไม่อยากสนับสนุนให้ใครมางมงายกับการเล่นหวยเดี๋ยว
จะเป็นการมอมเมาประชาชน
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาผลของล๊อตเตอรี่ก็ออก
ครูบาอาจารย์ท่านไม่เคยโกหกเรา เห็นอย่างไรก็ออกมาอย่างนั้น สรุปว่าวันนั้นผู้เขียนก็ถูก
(หวย)ไปตามระเบียบ ผู้เขียนไม่ได้ดีใจที่ถูกหวยแต่ดีใจที่ดวงพม่าที่เรียนมาไม่เคยทำให้เราผิดหวังเลยแม้แต่สักครั้งเดียว
หากจะผิดก็ผิดที่เราอ่านหรือพยากรณ์ผิดไปเอง ส่วนวิชานั้นแม่นยำอยู่แล้ว
ขึ้นอยู่กับว่าเราจะอ่านดวงได้แม่นยำเพียงใดเท่านั้น หลายคนอาจสงสัยว่าวันนั้นผู้เขียนถูก
(หวย) เป็น
เงินเท่าใดเรื่องนั้นอย่าไปสนใจเลย บอกแล้วว่าไม่ชอบซื้อหวย ซื้อเพียงแค่ขอทดลองวิชาไม่มากมายนักหรอก
ค่ะ และผู้เขียนก็มิได้ติดใจจนถึงขนาดว่างวดต่อไปจะซื้อหรอกค่ะ ซื้องวดเดียวเท่านั้นละค่ะ
เพราะซื้อสลากของ
ธนาคารไว้บ้างแล้วหากมีโชคก็คงจะถูกรางวัลได้เองนั่นละ
การจับยามตามหลักวิชาของดวงพม่านั้นถือเป็นเคล็ดวิชาที่สำคัญจะสอนกันเฉพาะศิษย์รักเท่านั้น
ในที่นี้ผู้เขียนจะกล่าวถึงเฉพาะวิธีการใช้ดวงยามแต่มิอาจเปิดเผยวิชานี้แก่ทั่วไปได้
(ผู้ที่มีวาสนาจะได้เรียนเอง)
การใช้ดวงยามจะใช้ในกรณีดังนี้
o
เราจะใช้เวลาขณะที่ลูกค้าเดินเข้ามาเพื่อจับยาม ตรวจดูว่าลูกค้าผู้นั้นต้องการมาหาด้วยเรื่องอันใด
เพื่อเวลาทำนายจะได้ไม่เสียเวลาอ้อมโลกไปไกล จะโฟกัส(ทำนาย)ได้ตรงจุดไม่เสียเวลาทั้งสองฝ่าย
รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง เอ๊ยไม่ใช่! จะทำนาย (อ่านใจ)
คนที่มาดูจากยามที่ปรากฏนั้น
o
จับยามเพื่อตอบคำถามที่ต้องการทราบในขณะนั้น ถามตอบทันใดใช้ถามได้สารพัด
เช่น เลิกกับแฟนแล้วจะกลับมาคืนดีกันหรือไม่ สัมภาษณ์งานครั้งนี้จะได้หรือไม่
ขอกู้เงินไปจะได้หรือเปล่า ฯลฯ
** ดวงยามใช้ตอบคำถามทำนาย ณ ปัจจุบันนั้น
เช่นเดียวกับการเสี่ยงทายหรือเปิดไพ่ แต่จะละเอียดกว่า **
อีกอย่างที่ใช้ได้ดีคือนามศาสตร์ : ดวงพม่านั้นเด่นเรื่องการอ่านพฤติกรรมของคน
ชื่อนั้นสำคัญต่อดวงชะตา ถามตอบเรื่องใดไม่ทราบวันเดือนปีเกิด ใช้ชื่อแทนได้
o
กรณีที่มีลูกค้ามาหลายคนจำเวลาไม่ได้ใช้ชื่อของลูกค้ามาอ่านแทนการจับยาม
o
ชื่อของบุคคลอื่นที่สัมพันธ์กับเจ้าชะตา สามารถนำชื่อมาพยากรณ์ความสัมพันธ์ต่อดวงชะตาเราได้
เช่น เจ้านาย เพื่อน แฟน ศัตรู บริวาร หากต้องการทราบว่าเขาเป็นอย่างไร
คิดอย่างไร เขามีผลกับชะตาเราอย่างไร ก็สามารถนำมาทำนายได้ โดยมี
2 วิธี คือวิธีที่หนึ่งตั้งเสาและดวงประจำวันขึ้นมา แล้วนำชื่อของคนผู้นั้นมายิงกับเสาแล้วอ่านดวงออกมา
วิธีที่สอง ประกอบเข้ากับเสาอาตมา แล้วอ่านจากพื้นดวงชะตาก็ได้ผลเช่นกัน
(วิธีนี้ใช้อ่านใจทำนายรักได้ เพราะคนที่เพิ่งรู้จักกันยังไม่ทราบวันเดือนปีเกิด
ใช้ชื่ออ่านใจได้เช่นกัน)
ส่วนการดูโชคลาภจากดวงชะตาจริงนั้นก็ให้ใช้หลักเดียวกันกับการอ่านดวงยามนั่นแหละ
ดูที่เสาปีจรเป็นหลักว่าเสาปีจรปีนั้นดาวโชคลาภ (ลาภะ ปุตตะ ลาภัง
) อยู่ในตำแหน่งที่ก่อให้เกิดโชคลาภหรือไม่ หากอยู่ในตำแหน่งที่ดีช่วงนั้นก็จะมีโชคค่ะ
ส่วนจะมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับบุญเก่าและวาสนาที่ติดตัวมานะคะ เพราะฉะนั้นหากท่านใดอยากมีโชคลาภบ่อยๆ
ก็ต้องหมั่นให้ทานทำบุญให้ครบถ้วนอยู่เป็นเนืองนิตย์ มีจิตใจที่ประคองไปด้วยศีลทั้งห้า
บุญกุศลที่สร้างไว้จะได้ติดตามไปช่วยเหลือเราได้ทุกชาติทุกภพไปยังไงละคะ.........ขอให้โชคดีมีลาภทุกคนค่ะ
พบกันใหม่ตอนหน้า สวัสดีค่ะ

|