Sea Level Rise +7M in 30 Years

Reference website

http://flood.firetree.net/?ll=16.3412,97.3388&z=12&m=7

Detail

http://en.wikipedia.org/wiki/Sea_level_rise

and Seminar Document

"The Impacts of Sea-Level Rise in Southeast Asia".

 

ดร. “อาจอง” ชี้คนไทยต้องฟังคำเตือน เรื่องสตอร์ม เซิร์จ


           ดร. “อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา” อดีตนักวิทยาศาสตร์องค์การนาซ่า แนะ ภายใน 6 ปีรัฐบาลต้องเริ่มคิดย้ายเมืองหลวงได้แล้ว คาดอีก 30 ปีข้างหน้า ภาคกลางของไทยจมใต้ทะเล ตรงกับข้อมูลนาซ่า ที่ระบุว่าระดับน้ำทะเลของไทยจะสูงขึ้น 7 เมตรจากภาวะโลกร้อน ชี้คนไทยต้องฟังคำเตือนของ “สมิทธ” เรื่องสตอร์ม เซิร์จ เพราะอาจเกิดขึ้นจริง ย้อนคำเตือนเขื่อนเมืองกาญจน์แตก ตามรอยแผ่นดินไหว น้ำจะบ่าถึงกรุงเทพฯ ย้ำใช้สติแก้ปัญหา

           เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะโลกร้อน (Global Warming) กล่าวในงานสัมมนาของ บริษัท เฮงเค็ล (ประเทศไทย) จำกัด ว่า ภาวะโลกร้อนทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น การเคลื่อนไหวของสภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลงอย่างมาก จะทำให้เกิดพายุมากขึ้น ดังนั้นประชาชนจึงควรฟังคำเตือนของ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัต ิแห่งชาติ ที่ได้ประกาศเตือนไว้ก่อนหน้านี้ ตนเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดสตอมเซอจ (Storm Surge) หรือคลื่นพายุหมุน เพราะปัจจุบัน ธารน้ำแข็งขั้วโลกละลายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น โลกของเราเต็มไปด้วยน้ำถึง 3 ใน 4 ส่วน ครึ่งหนึ่งอยู่ในมหาสมุทร แปซิฟิก ส่งผลให้น้ำหนักของโลกไม่เท่ากัน เปลือกโลกจะเริ่มเคลื่อนไหว จะเกิดเหตุแผ่นดินไหวมากขึ้น โดยเฉพาะตามรอยต่อของเปลือก โลก ทะเลอันดามัน ประเทศอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

           นักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง กล่าวต่อว่า ภายใน 6 ปี ประเทศไทยควรเริ่มย้ายเมืองหลวง เพราะ 30 ปีข้างหน้า ภาคกลางของ ประเทศไทยจะจมอยู่ใต้ทะเล ตรงกับแผนที่ขององค์การนาซา (The National Aeronautics and Space Administration-NASA) หรือองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ ของสหรัฐอเมริกา ที่ระบุว่าระดับน้ำทะเลในประเทศไทยจะสูงขึ้น 7 เมตร ดังนั้น เมืองหลวงควรอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 40-50 เมตร การที่เปลือกโลกร้าวจะทำให้ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก และกาญจนบุรี เกิดแผ่นดินไหว ก่อนหน้านี้ตนเคยเตือนว่าเขื่อนที่ จ.กาญจนบุรี จะแตกเพราะอยู่ตามแนวที่จะเกิดแผ่นดินไหว แต่วิศวกรแย้งว่า การออกแบบก่อสร้างเขื่อนทนต่อแผ่นดินไหวได้ 8 ริคเตอร์ แต่สิ่งที่อาจเกิดขึ้นคือการเคลื่อนที่ของดิน ซึ่งอาจเคลื่อนไปคนละทิศละทาง จึงอาจทำให้เขื่อนแตกได้ และจะส่งผลให้เมืองกาญจน์จมน้ำ แล้วน้ำจะไหลมาสู่ จ.นครปฐม และกรุงเทพฯ ในที่สุด

           “ผมอยากฝากถึงรัฐบาลว่า ควรเริ่มคิดจะย้ายเมืองหลวงได้แล้ว เพราะการย้ายเมืองจะใช้ ระยะเวลายาว ผมไม่ได้บอกว่าน้ำ จะท่วมกรุงเทพฯ ภายใน 6 ปี แต่ควรจะเริ่มวางแผนย้ายเมืองหลวง และต้องอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 40-50 เมตร สิ่งที่ ดร.สมิทธ ออกมาเตือนทุกอย่างมีความเป็นไปได้ทั้งสิ้น เพราะโลกได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อน สิ่งที่จะเตือนประชาชนคือ ต้องระมัดระวังเรื่อง พายุต่าง ๆ จะรุนแรงมากขึ้น น้ำจะท่วมฉับพลัน แต่ทุกคนต้องมีสติ ไม่มีปัญหาอะไรที่แก้ไขไม่ได้ สติที่ดีจะแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง เราต้อง ฟังเหตุผลของทุกคน” ดร.อาจอง กล่าวตอนท้าย

           สำหรับ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา เป็นนักวิชาการ นักวิจัยที่มีผลงานมากมาย ผลงานสำคัญชิ้นหนึ่งคือ เคยเป็นหนึ่งในทีม นักวิทยาศาสตร์ร่วมโครงการอวกาศไวกิ้ง ขององค์การนาซา สหรัฐอเมริกา เป็นผู้ออกแบบและสร้างอุปกรณ์ควบคุมการร่อนลงของยาน อวกาศไวกิ้ง 2 ลำ ลงสู่พื้นผิวดาวอังคารได้สำเร็จ ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนสัตยาไส จ.ลพบุรี.


ข้อมูลจาก

ภาพจาก สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

 

ดร.อาจอง พยากรณ์หิมะตกไทยต้นมกราคมปีหน้า เตือนกาญจน์ระวังเขื่อนแตก

           เมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่ผ่านมา ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา อดีตนักวิทยาศาสตร์นาซา และผู้เชี่ยวชาญเรื่องภาวะโลกร้อน เปิดเผยถึงความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศของประเทศ ที่ส่งสัญญาณมาทางพายุหมุนทอร์นาโดขนาดเล็ก ณ บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ และพัทยา ว่า ปกติแล้วพายุทอร์นาโดมีให้เห็นเป็นเรื่องธรรมดาในต่างประเทศ แต่ประเทศไทยไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ปรากฏการณ์ที่เกิด ขึ้นสาเหตุมาจากอุณหภูมิสูงขึ้น และขณะนี้ทั่วโลกอุณหภูมิสูงขึ้นเกือบ 1 องศาแล้ว แม้ภาพรวมจะไม่เห็นชัดเจนนัก แต่ที่ผ่านมาก็ส่งผลให้ ประชากรในยุโรปเสียชีวิตแล้ว 20,000 คน จากความร้อนที่สูงขึ้นมีผลกระทบโดยตรง ประเทศที่อยู่ในเขต เส้นศูนย์สูตร มีการเปลี่ยนแปลง เกิดขึ้นเยอะ ที่ผ่านมามีหิมะตกครั้งแรกในเวียดนาม เคนยา และมีความเป็นไปได้ที่ในเดือนมกราคม 2552 นี้จะมีหิมะตกในภาคเหนือ ของประเทศไทย

           ดร.อาจอง กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ภาวะโลกร้อนยังส่งผลให้ภาวะน้ำแข็งในขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ละลายเร็วกว่าที่คิด ขณะนี้ มีก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่เท่ากับเมืองนิวยอร์กไหลสู่ทะเล หมายความว่าน้ำในทะเลจะค่อยๆ กินชายฝั่งทะเลบ้านเราไปเรื่อย ตอนนี้เรา สูญเสียแผ่นดิน 1 กิโลเมตร ที่ชายทะเลบางขุนเทียน และทั่วโลกเจอปัญหาเดียวกัน โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐอเมริกาออกมาพูดแล้วว่า ต่อไปเมืองไมอามี่ ซึ่งเป็นเมืองติดทะเลจะไม่เหลือ ทั้งนี้กรุงเทพฯ สูงกว่าระดับน้ำทะเลไม่ถึง 1 เมตร เมื่อระดับน้ำทะเลขึ้นมาเกินกว่า 1 เมตร กรุงเทพฯ พร้อมกับจังหวัดสมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี และลพบุรี ครึ่งจังหวัดจะจมอยู่ใต้น้ำ และนั่นหมายความว่าพื้นที่ผลิตข้าวในภาคกลางจะหมด ราคาข้าวในตลาดโลกจะสูงเป็นประวัติการณ์ เพราะแหล่งปลูกข้าวในภาคกลางเลี้ยงคนเกือบทั้งโลก ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของแผนที่นาซาว่า ภายใน 30 ปี น้ำทะเลจะสูงขึ้น 6 เมตร

           ดร.อาจอง กล่าวอีกว่า เพื่อรับมือกับปัญหานี้จำเป็นต้องย้ายเมืองหลวงตั้งแต่เดี๋ยวนี้เพราะต้องใช้เวลาเป็น 10 ปี ในการย้าย เมือง และภายใน 6 ปีจะเริ่มเห็นระดับน้ำทะเลสูงขึ้นในระดับท่วมขังแล้ว จะสูบออกได้ยาก นอกจากสร้างเขื่อนกั้นน้ำเหมือนกับประเทศ เนเธอร์แลนด์ จะป้องกันได้ แต่ล่าสุดตนไปประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อเดือนที่แล้ว เขาบอกว่าจะรับไม่ไหวแล้วเพราะระดับน้ำทะเลสูงขึ้น การสูบน้ำออกจากเขื่อนทำได้ลำบาก สถาปนิกของประเทศเริ่มออกแบบบ้านอยู่บนแพกันแล้ว อย่างไรก็ตาม การย้ายเมืองใหม่อันดับแรก ต้องย้ายรัฐสภาไปก่อน เพราะเป็นศูนย์กลางของเมืองใหม่ เมื่อย้ายไปหน่วยราชการต่าง ๆ จะตามไป จุดเหมาะสมที่จะย้ายเมืองหลวงคือ อีสานตอนใต้ ขณะที่ภาคใต้จะเจอพายุรุนแรงมากขึ้น จะเกิดสตอม เซอจมาถึงกรุงเทพฯ อย่างที่ ดร.สมิทธ บอกไว้ ส่วนภาคตะวันตกจะม ีพายุไซโคลนเข้ามา โชคดีที่ผ่านมาพายุนาร์กีสเข้าไปที่พม่ายังมาไม่ถึง ประเทศไทย

           อดีตนักวิทยาศาสตร์นาซา กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยเตือนแล้วว่าเขื่อนใหญ่ 2 เขื่อน ในจังหวัดกาญจนบุรี อยู่ใต้รอยร้าว ของเปลือกโลก แต่วิศวกรแย้งว่าได้ออกแบบการก่อสร้างเขื่อนให้ทนต่อแผ่นดินไหวได้ 8 ริคเตอร์ แม้ว่าที่ผ่านมาประเทศไทยไม่เคยเกิด แผ่นดินไหวรุนแรง อย่างไรก็ตาม ถ้าเอาเขื่อนมาเขย่าในความแรง 8 ริคเตอร์ เขื่อนก็สามารถทนได้ แต่ถ้ารอยร้าวเคลื่อนที่สลับกันจะทำให้ เขื่อนแตก และน้ำจะไหลลงมาท่วมจังหวัดกาญจนบุรี ที่อยู่ใต้เขื่อน และจะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก รัฐบาลต้องให้นักธรณีวิทยาไป ศึกษาดูเบื้องต้นต้องรีบปล่อยน้ำออกจากเขื่อนให้เหลือน้อยลง แม้ว่าเขื่อนแห่งนี้จะเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าสำคัญของพื้นที่ภาคกลางก็ตามที จำเป็นต้องเสียสละไฟฟ้าเพื่อช่วยชีวิตมนุษย์ และต่อไปการสร้างบ้าน สร้างอาคารในแนวที่มีรอยร้าวแผ่นดินไหวไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่ กรุงเทพฯ อีสานตอนเหนือ ต้องออกฎหมายรับรอง การทนทานต่อแผ่นดินไหวอย่างน้อย 6 ริคเตอร์

           ส่วน นายศุภฤกษ์ ตันศรีรัตนวงศ์ อธิบดี กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวถึงกรณีที่มีผู้กล่าวว่าในช่วงเดือนมกราคม 2552 จะมีหิมะตกในประเทศไทย ว่า การที่จะมีหิมะตกหรือไม่ขึ้นอยู่กับมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนที่แผ่เข้าปกคลุมในประเทศไทยช่วงนั้นว่า มีความหนาวเย็นมากแค่ไหน โดยต้องดูเรื่องระดับความสูงของพื้นที่ในไทยด้วย ซึ่งโดยรวมคิดว่าน่าจะเกิดแม่คะนิ้งตามภูเขาและดอย ในเชียงใหม่ และเชียงรายมากกว่า ไม่ใช่หิมะ

           ขณะที่ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผอ.ศูนย์วิจัยภัยธรรมชาติ ม.รังสิต กล่าวว่า เรื่องที่จะเกิดหิมะตกในเมืองไทยถือเป็นเรื่องท ี่ไกลตัวและมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก เนื่องจากลักษณะภูมิศาสตร์ของประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตอากาศร้อนชื้นและไม่ได้อยู่ติด กับประเทศจีนเหมือนพื้นที่ภาคเหนือของเวียดนาม ที่มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้การเกิดหิมะตกอุณหภูมิต้องติดลบ แต่ลักษณะภูมิอากาศของไทยยังไม่ถึงขั้นติดลบ โอกาสที่จะเกิดหิมะตกจึงเป็นไปได้ยาก คงมีแต่โอกาสที่จะเกิดลูกเห็บตกและเกิด แม่คะนิ้งบน ดอยสูงมากกว่า

           "สำหรับในเรื่องอีก 30 ปี จะเกิดน้ำท่วมกรุงเทพฯ เรื่องนี้มีโอกาสเป็นไปได้สูง หากดูจากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2538 ซึ่งหากมีปริมาณฝนตกหนักเหมือนปี 2538 ประกอบกับแผ่นดินที่ทรุดตัวลงทุกๆ ปี รวมกับน้ำเหนือที่ไหลลงมา และเกิดน้ำทะเลหนุนขึ้น หากปัจจัยต่างๆ เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน ก็อาจจะใช้เวลาไม่ถึง 30 ปี โดยพื้นที่ที่จะเกิดน้ำท่วมก่อนคือจังหวัดสมุทรปราการ แต่การท่วมจะเป็นไปในลักษณะเหมือนน้ำขึ้น-น้ำลงตามระดับ จึงเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องหาทางรับมือตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อให้เกิดผลกระทบและความเสียหายน้อยที่สุด" รศ.ดร.เสรี กล่าว

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจากมติชนออนไลน์