22
คะแนน
 

รูป ชนเผ่าไต (ไทย) ในอาณาจักรสิบสองปันนา ของจีน(ในปัจจุบัน)

โดย ปองพล เป็นกระทงร้อน 1 เดือนที่แล้ว
ผู้โพสเขียนหรือทำขึ้นมาเอง
  ดินแดนร้อยโค้ง สิบสองปันนา

.
คะแนน: 22 ชอบ, 0 ไม่ชอบ

คลับ: ขบวนการชาตินิยม ศาสนาพุทธ*

Tag: ไทย จีน พม่า เผ่าไทย ไต ยูนนาน ชาวไต สิบสองปันนา ไทลื้อ เชียงรุ่ง สิบสองพันนา

ชนิด: รูป - ประเภท: สังคมศาสนา
13 บทวิจารณ์  |  1,954 คนอ่าน
 
คำสั่ง
Share
hi5  |  Exteen  |  เด็กดี  |  BlogGang
ภาพประกอบ
บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด

ดินแดนร้อยโค้ง สิบสองปันนา

.


เขตปกครองตนเองชนชาติไท สิบสองปันนา (จีนตัวเต็ม: 西雙版納傣族自治州; จีนตัวย่อ: 西双版纳傣族自治州; พินอิน: Xīshuāngbǎnnà dǎizú Zìzhìzhōu; อังกฤษ: Xishuangbanna Autonomous Region of Tai Ethnic Groups) ตั้งอยู่ทางใต้สุดของมณฑลยูนนาน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน สิบสองปันนา มีความหมายว่า "นาสิบสองพัน" หรือ "นา 12,000 ผืน" อีกนัยหนึ่งก็คือ 12 เมือง มีเมืองหลวงอยู่ที่เมืองเชียงรุ่ง (จีน: 景洪 จิ่งหง) เป็นเมืองของชาวไทลื้อ

ในสมัยโบราณนั้น เคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรน่านเจ้า มีเมืองหลวงอยู่ที่ หนองแส หรือ เมือง ต้าลี่ ในประเทศจีนปัจจุบัน

สิบสองปันนา
• ที่ตั้ง : ตั้งอยู่ทางใต้สุดมณฑลยูนนาน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
สิบสองปันนา หรือ สิบสองพันนา หรือชื่อเต็มว่า เขตปกครองตนเองชนชาติไท สิบสองปันนา มีความหมายคือ 12 เมือง มีเมืองหลวงอยู่ที่เมืองเชียงรุ่ง ซึ่งในอดีตเป็นเมืองของชาวไทลื้อ

ตามเอกสารที่ได้บันทึกเมื่อปี พ.ศ. 2113 จัดแบ่งไว้ ดังนี้ [1]

  1. เมืองเชียงรุ่ง เมืองยาง เมืองฮำ รวมเป็น 1 พันนา
  2. เมืองแจ เมืองมาง (ฟากตะวันตก) เมืองเชียงลู เมืองออง เป็น 1 พันนา
  3. เมืองลวง เป็น 1 พันนา
  4. เมืองหน เมืองพาน เชียงลอ เป็น 1 พันนา
  5. เมืองฮาย เชียงเจือง เป็น 1 พันนา
  6. เมืองงาด เมืองขาง เมืองวัง เป็น 1 พันนา
  7. เมืองหล้า เมืองบาน เป็น 1 พันนา
  8. เมืองฮิง เมืองปาง เป็น 1 พันนา
  9. เชียงเหนือ เมืองลา เป็น 1 พันนา
  10. เมืองพง เมืองมาง (ฟากตะวันออก) เมืองหย่วน เป็น 1 พันนา
  11. เมืองอูเหนือ เมืองอูใต้ เป็น 1 พันนา
  12. เมืองเชียงทอง อีงู อีปาง เป็น 1 พันนา
  13. เมืองภูแถนหลวง เวียงคำแถน เป็น 1 พันนา




ภูมิประเทศ

เขตปกครองตนเองพิเศษสิบสองปันนามีเนื้อที่ประมาณ 19,700 ตารางกิโลเมตร มีอาณาเขตติดกับแขวงหลวงน้ำทา แขวงพงสาลี ของประเทศลาวและรัฐฉาน ของประเทศพม่า โดยมีแม่น้ำโขงไหลผ่านตอนกลาง

ประวัติเมืองสิบสองปันนา

เมืองสิบสองปันนานั้นได้เป็นราชอาณาจักรหอคำเชียงรุ่ง เมื่อประมาณ 830 ปีก่อน โดยพญาเจืองหรือสมเด็จพระเจ้าหอคำเชียงรุ่งที่ 1
อาณาจักรสิบสองปันนาเริ่มเป็นปึกแผ่นและแผ่ขยายอาณาเขตมากที่สุดในยุคท้าวอินเมือง สามารถขยายอาณาเขตเข้าไปยึดถึงเชียงตุง เมืองแถน (เดียนเบียนฟู) เชียงแสน ล้านช้าง จึงเป็นเหตุให้การอพยพชาวไทลื้อจากเชียงรุ่งและอีกหลายหัวเมืองเข้าไปสู่ดินแดนดังกล่าว เพื่อเข้าไปตั้งชุมชนปกครองหัวเมืองประเทศราช

สิบสองปันนาดำรงความมั่นคมเฟื่องฟูอยู่ 100 กว่าปี ก็ถูกรุกรานโดยชาวมองโกลและตกอยู่ในการปกครองของจีนในปี พ.ศ.1833 ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อจากชื่อภาษาไทลื้อมาเป็นภาษาจีนและเจ้าผู้ครองนครชาวไทลื้อถูกเรียกว่าเจ้าแสนหวีฟ้า

หลังจากที่พม่าได้ก่อตั้งอาณาจักรตองอูและขยายอาณาเขตของตนไปทางตะวันออก พม่าได้ยึดเมืองสิบสองปันนา จากนั้นจึงได้แบ่งเมืองสิบสองปันนาออกเป็น 12 หัวเมือง ได้แก่ เมืองฮาย เมืองม้าง เมืองหุน เมืองแจ้ เมืองฮิง เมืองลวง เมืองอิงู เมืองลา เมืองพง เมืองอู่ เมืองอ่อง และ เมืองเชียงรุ่ง จึงเรียกเมืองเหล่านนี้รวมกันว่า สิบสองปันนา และในช่วงสมัยนี้เป็นช่วงเวลาที่วัฒนธรรมพม่าและพระพุทธศาสนาได้เข้าแผ่ขยายเข้าไปในเขตสิบสองปันนา
สมัยรัตนโกสินทร์

ในสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช หลังจากพระองค์ได้ส่งทัพมาตีเมืองเชียงใหม่ และ อาณาจักรล้านนา จากพม่าแล้ว พระองค์ได้โปรดให้พระเจ้ากาวิละเป็นแม่ทัพยกไปตีเมืองเชียงรุ่งและกวาดต้อนพลเมืองชาวไทลื้อในสิบสองปันนา ไทลื้อเมืองพน เมืองหย่วน เมืองล่า ชาวไทขึนและชาวไทใหญ่จากเมืองเชียงตุง มาอยู่ที่เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน พะเยา และน่านเป็นจำนวนมาก ซึ่งเรียกกันว่ายุค "เก็บผักใส่ซ้า เก็บข้าใส่เมือง" อันเป็นวิธีฟื้นฟูอาณาจักรล้านนา เพราะในช่วงก่อนนั้นพม่าได้กวาดต้อนชาวล้านนาไปอยู่ที่ พุกาม และ มัณฑะเลย์ ไปจำนวนมาก

เชียงรุ่งถูกยื้อแย่งดึงโดยอาณาจักรใกล้เคียงไปมาอยู่ไม่นาน กระทั่งยุคสมัยแห่งการล่าอาณานิคมในช่วงรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 ทั้งอังกฤษและฝรั่งเศส เข้ามาขีดเขตอำนาจของตนให้พม่าไปอยู่กับอังกฤษ สิบสองปันนาอยู่กับจีน เชียงตุงไปกับพม่า และฝรั่งเศสคุมลาว กัมพูชาและเวียดนาม

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองเชียงรุ่งถูกยุบจากเมืองหลวงเป็นแค่หัวเมืองและเจ้าปกครองนครทั้งหลายก็ถูกปลด ในปัจจุบันคนที่มีแซ่เต๋าก็คือเชื้อเจ้าในสิบสองปันนาที่เคยครองเมืองทั้งหลายเหล่านี้






• สิบสองปันนา เป็นดินแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์ยิ่ง ด้วยตั้งอยู่ตรงกลางที่ลุ่มหุบเขาริมแม่น้ำโขง ซึ่งชาวไทลื้อเรียกว่า แม่น้ำล้านช้าง ชาวจีน เรียกว่า แม่น้ำหลันช้าง หรือ หลันชาง หรือ หลันชางเจียง สิบสองปันนา มีสภาพภูมิอากาศแบบป่าฝนเขตร้อน มีฝนตกชุก ไม่มีหิมะตก อากาศไม่หนาวเย็นจนเกินไป ผืนดินจึงอุดมไปด้วยป่าไม้เขตร้อน มีความหลากหลายทางชีวภาพ มีความเขียวขจีตลอดทั้งปี ในผืนป่าก็อุดมสมบูรณ์ด้วยสัตว์ป่าอย่างช้างและนกยูง ที่เป็นเสมือนสัตว์สัญลักษณ์ของสิบสองปันนา ซึ่งดินแดนอื่นในประเทศจีนอันกว้างใหญ่ไพศาลไม่มีสภาพความอุดมสมบูรณ์เช่นนี้ สิบสองปันนาจึงเป็นแหล่งปลูกข้าว อ้อย ยางพารา กาแฟ ปาล์มน้ำมัน มะพร้าว ส่งขายไปยังเมืองอื่นๆ ในประเทศจีน สิบสองปันนาได้รับสมญานามว่าเป็นอาณาจักรแห่งต้นไม้ เป็นเสมือนอู่ข้าวอู่น้ำของมณฑลยูนหนาน และเป็นดินแดนหนึ่งที่รัฐบาลจีนภาคภูมิใจเพราะทำให้จีนได้ชื่อว่ามีผืนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ไพศาล มีสภาพภูมิประเทศและผืนป่าครบ ตั้งแต่ดินแดนน้ำแข็งแบบขั้วโลกจนถึงป่าเขตร้อนเหมือนเช่นแถบเส้นศูนย์สูตรอย่างผืนป่าสิบสองปันนา.

มีเพลงหนึ่งเพลงของคำหล้า ซึ่งไพเราะมาก แต่ว่าข้อมูลอันเกี่ยวเนื่องกับเพลงนี้ ก็มีเยอะมากไม่น้อยหน้ากัน ฉันจึงเกิดอาการ "ดอง" เอาไว้ก่อน เนื่องจากหยุดพักผ่อนยาว ๆ ตั้งแต่วันมีทติ้ง ก็เลยรู้สึกเหนื่อย ๆ แต่ว่าตอนนี้เกิดจะ "ขยัน" ขึ้นมาซะแล้วนี่ จึงจำต้องอ่านสิ่งที่ค้นคว้ามาได้ ให้ละเอียดที่สุด กันเหนียว [๕๕๕ !!! มีคนบอกฉันว่า คุ้มจะโดนเผาถ้าไม่รีบอัพ ]

.

ฉันจะไม่ขยายความอะไรมาก ขอเอาเนื้อ ๆ เลยดีกว่า เพลงที่ฉันหยิบมานำเสนอ พร้อมเกร็ดเล็กน้อยนี้คือเพลง "สิบสองปันนา" น้องคำหล้าร้องเอาไว้อยู่ในชุดประทีปพันดวง .เรื่องราวของเพลงไม่มีรายละเอียดอะไรมาก แต่เรื่องราวของดินแดนสิบสองปันนา มีเยอะจนกว่าที่ฉันจะอ่านได้จบ และตัดทอนออกมาจะใช้เวลาไม่น้อยเลย

.

บ้านแบบไทลื้อ

ได้เริ่มต้นการค้นคว้ามาหลายวันมากสำหรับดินแดนสิบสองปันนา หรือเชียงรุ่ง เนื่องจากเป็นดินแดนซึ่งเป็นรัฐไทยอิสระอยู่ทางตอนใต้ของมณฑลยูนหนาน และมีความสัมพันธ์กับไทยมาช้านาน ประชาชนพลเมืองล้วนแต่เป็นชาวไทภูเขา โดยเฉพาะไทลื้อจะเยอะที่สุด และดินแดนสิบสองปันนาก็เปรียบเสมือเป็นเมืองหลวงหรือศูนย์กลางแห่งชาวไทลื้อด้วยเช่นกัน

.

ไทลื้อเป็นหนึ่งในกลุ่มชนชาติ ไท หรือ ไต ชนชาติที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาช้านานในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออุษาคเนย์ เป็นชนชาติที่มีภาษาวัฒนธรรมเป็นของตนเอง มีความสามารถทางการเพาะปลูกและการเกษตรกรรมเก่าแก่ไม่แพ้ชนชาติใดในโลก

.

การแต่งกายชาวไทลื้อ

.

มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์และทางโบราณคดีได้กล่าวไว้ว่า ชาวไทลื้อดำรงชนชาติมานานกว่า 2,000 ปี อาณาจักรที่เป็นศูนย์กลางของชาวไทลื้อสถาปนาขึ้นเมื่อราว 800 ปีก่อน ตามหลักฐานทางโบราณคดีระบุว่า ขุนเจือง หรือ พญาเจือง ได้รวบรวมชาวไทลื้อกลุ่มเล็กๆให้เป็นปึกแผ่น

.

และสถาปนาอาณาจักร หอคำเชียงรุ่ง ขึ้นบริเวณเมืองเชียงรุ่งเขตปกครองตนเองสิบสองปันนาแห่งนี้ในปี พ.ศ.1723 โดยประกาศอิสรภาพไม่ขึ้นอยู่กับอาณาจักรตาลีฟูของจีน และครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์แรก มีพระนามว่า สมเด็จพระเป็นเจ้าหอคำเชียงรุ่งองค์ที่ 1

.
ชื่อเชียงรุ่ง มาจากเรื่องราวในพุทธตำนานของชาวไทลื้อที่ว่า เมื่อครั้งองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดสัตว์ถึงยังดินแดนริมฝั่งโขงของชาวไทลื้อแห่งนี้ ก็เป็นเวลาเช้าพอดี จึงเรียกดินแดนแห่งนี้ว่า เชียงรุ่ง อันเป็นดินแดนที่พระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองสืบไปในอนาคต ดินแดนริมแม่น้ำโขงจึงถึงเรียกว่า เชียงรุ่ง สืบมา

.

วัดเชียงบาน

สถาปัตยกรรมของชาวไทลื้อ อ.เชียงบาน จ.พะเยาว์

.

ชาวไทลื้อออกเสียง พ.พาน เป็นเสียง ป.ปลา จึงออกเสียงหัวเมืองทั้งหมดที่มีสิบสองพันนาเป็นสิบสองปันนา ระบบการปกครองแบบพันนานี้ก็เริ่มขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าอินทร์เมืองรัชกาลที่ 21แห่งอาณาจักรหอคำเชียงรุ่ง ในราวปี พ.ศ.2115 ซึ่งมีเมืองต่างๆ กระจายกันอยู่ทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขง

.

ตามคำเรียกขานอย่างคล้องจองของชาวไทลื้อที่ว่า 5 เมิงตะวันตก 6 เมิงตะวันออก อันหมายถึงเมืองหรือพันนาทางฝั่งตะวันตกของของแม่น้ำโขงนั้นมี 5 เมือง และฝั่งตะวันออกอีก 6 เมือง รวมกับเชียงรุ่งซึ่งเป็นศูนย์กลางอีก 1 เมือง เป็น 12 เมืองใหญ่ หรือ 12 พันนา

.

วัดหนองบัว

สถาปัตยกรรมของชาวไทลื้อ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา จ.น่าน

.

สิบสองปันนาดำรงความมั่นคงเฟื่องฟูอยู่ราวร้อยกว่าปีก็ถูกรุกรานอีกครั้งโดยชาวจีนสมัยราชวงศ์มองโกล และตกอยู่ในการปกครองของจีนอีกครั้งในปี พ.ศ. 1835 โดยจีนได้แต่งตั้ง เจ้าแสนหวีฟ้า ขึ้นเป็นกษัตริย์เชียงรุ่ง ซึ่งคำว่า แสนหวี นั้นมาจากภาษาจีนว่า ชวนเหว่ ซึ่งหมายถึงการโฆษณาปลอบโยน ตำแหน่งของเจ้าแสนหวีจึงหมายถึงผู้ที่ทำหน้าที่เกลี้ยกล่อมปลอบโยนราษฎรในปกครองให้อยู่ในอำนาจของจักรพรรดิจีน




ยายนาง.

เมื่อสิบสองปันนาอ่อนแอลงและต้องตกอยู่ในปกครองของจีนแต่ศูนย์กลางแห่งอำนาจจีนก็อยู่ห่างไกล ในขณะที่อิทธิพลของพม่าและสยามในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้นเมื่อราว 200 กว่าปีก่อน ก็แข็งแกร่งขึ้นตามลำดับอาณาจักรสิบสองปันนาจึงจำเป็นต้องยอมอ่อนน้อมส่งเครื่องบรรณาการให้กับทั้งเจ้ากรุงจีน เจ้ากรุงศรีอยุธยา

.

ไทลื้อในอดีต

อันหมายถึงสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตโกสินทร์ และเจ้ากรุงอังวะแห่งพม่า สิบสองปันนาในยามนั้นจึงถูกเรียกว่าเป็นเมือง สามฝ่ายฟ้า คือตกอยู่ใต้อิทธิพลของชาติที่แข็งแกร่งกว่าถึง 3 อาณาจักรในเวลาเดียวกัน

.
ในสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชนั้น หลังจากที่พระองค์ในส่งทัพมาปลดปล่อยเชียงใหม่และอาณาจักรล้านนาจากอิทธิพลของพม่าแล้ว ได้โปรดให้พระเจ้ากาวิละเป็นแม่ทัพ ยกไปตีเมืองพน เมืองหย่วน เมืองล่า และกวาดต้อนชาวไทขึนจากเชียงตุง ชาวไทยใหญ่จากเมืองฉานในพม่า มาอยู่ที่เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน พะเยา และน่าน เป็นจำนวนมาก

.

สาวลื้อ

.

ซึ่งเรียกกันว่ายุค เก็บผักใส่ซ้า เก็บข้าใส่เมือง อันเป็นวิธีการฟื้นฟูอาณาจักรล้านนาวิธีหนึ่ง เพราะในช่วงที่พม่ายึดครองเชียงใหม่นั้น ก็ได้กวาดต้อนชาวเชียงใหม่และชาวล้านนาไปอยู่ที่พุกามและมัณฑเลย์จำนวนมากเช่นกัน



อาณาจักรเชียงรุ่งถูกยื้อยุดฉุดดึงโดยอาณาจักรที่เข็มแข็งไปมาอยู่นาน กระทั่งยุคสมัยแห่งการล่าอาณานิคมในช่วงรัชกาลที่ 4 ถึงรัชกาลที่ 5 ของไทย ทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสที่มีอิทธิพลเข้มแข็งยิ่งขึ้นไปอีกก็เข้ามาขีดเส้นแบ่งปันจัดสรรโดยอังกฤษยึดครองพม่า ให้สิบสองปันนาไปขึ้นอยู่กับจีน ให้เชียงตุงขึ้นอยู่กับพม่า และขีดเส้นให้ฝรั่งเศสมีอิทธิพลอยู่ในลาวและอินโดจีน


สิบสองปันนายังคงมีกษัตริย์ปกครองอยู่ถึง 45 รัชกาล กระทั่ง เหมา เจ๋อ ตุง ปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองจีนเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ ในปี พ.ศ. 2492 และนำทหารเข้ายึดครองสิบสองปันนาในปี พ.ศ. 2493 ระบอบกษัตริย์ก็สิ้นสุดลง เชื้อพระวงศ์ต่างแตกกระสานกระเซ็นไปอยู่พม่าบ้าง สยามบ้าง

.

สถาปัตยกรรมแบบไทยลื้อ เมืองสิบสองปันนา

.

เจ้าหม่อมคำลือ กษัตริย์องค์สุดท้ายต้องเปลี่ยนฐานะเป็นสามัญชนคนหนึ่ง โดยทางการจีนให้ทำงานอยู่ในสถาบันชนชาติส่วนน้อยแห่งมณฑลยูนหนาน พระราชวังเวียงผาคราง ริมฝั่งแม่น้ำโขงเมืองเชียงรุ่งของกษัตริย์ไทลื้อถูกเผาทำลายลงจนราบคาบ



เทศกาลสงการณ์ของสิบสองพันนา

แม้การปฏิวัติวัฒนธรรมของลัทธิคอมมิวนิสต์จะมีส่วนในการทำลายภูมิปัญญา ศาสนา และวัฒนธรรมของชาวไทลื้อไปมากน้อยเพียงใด แต่เมื่อยุคสมัยผ่านไป ระบอบคอมมิวนิสต์เสื่อมคลายความเข้มงวดลง ศาสนาและวิถีวัฒนธรรมของชาวไทลื้อสิบสองปันนาก็กลับฟื้นคืนชีวิตอีกครั้ง สิบสองปันนาเปิดตัวให้กับโลกภายนอกอีกครั้ง

.

แม่น้ำโขงในดินแดนสิบสองปันนา

.

คนไทยจากเมืองไทยได้รู้จักและไปมาหาสู่ชาวไทลื้อสิบสองปันนาที่เป็นเสมือนชนร่วมสายบรรพบุรุษอีกครั้ง แต่ช่วงเวลาแห่งความสวยงามเหล่านี้ยืนอยู่ได้ไม่นานนัก วัฒนธรรมของชาวไทลื้อสิบสองปันนาก็ต้องมาถูกทำลายอีกครั้ง

.

ซึ่งเป็นการทำลายล้างอย่างหนักหน่วงกว่าการปฏิวัติวัฒนธรรมโดยระบอบคอมมิวนิสต์เสียอีก และเป็นการทำลายวัฒนธรรมของชาวไทลื้ออย่างถาวรอีกด้วย นั่นคือการถูกทำลายจากการพัฒนาในระบอบทุนนิยมนั่นเอง

.

เคยมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งซึ่งเป็นชาวเหนือโดยแท้ ได้พูดกับฉันไว้ครั้งหนึ่งว่า หากอาณาจักรล้านนา จะรวมตัวและตั้งประเทศขึ้นมาเอง ย่อมได้อยู่แล้ว และภาษาที่ใช้ประจำชาติ ก็จะต้องเป็นภาษาเหนือ ไม่ใช่ภาษากลาง ทำให้ฉันมองภาพว่า ถ้าเป็นไปได้จริง อาณาจักรล้านนา ก็คงจะใกล้เคียงกับ สิบสองปันนาเป็นแน่แท้

.

บ้านแบบชาวไทลื้อ

.

ขอบคุณข้อมูลการค้นหาจาก โอนสไมล์ http://www.oceansmile.com/China/SibsongpannaHistory.htm อันที่จริงเยอะกว่านี้ การอพยพของชาวไทลื้อ และไทลื้อในปัจจุบัน ฯลฯ อยากทราบโดยละเอียดคลิกเข้าไปอ่านได้เลยค่ะ ขนาดตัดออกแล้วยังยาวเหยียด ไม่รู้ว่าจะกระชับอย่างไรแล้วค่ะ ต้องขออภัย

 
.

เรื่องแนะนำ:



บทวิจารณ์
  คำสั่ง โหวต
2 คะแนน โดย ปองพล เมื่อ 1 เดือนที่แล้ว
ช่วยโหวตทีนะ
  คำสั่ง โหวต
0 คะแนน โดย pui_samui เมื่อ 1 เดือนที่แล้ว
กลับมาแล้ว แต่ย้ายที่ซุกหัวนอนจากเกาะสมุยแสนรัก มาอยู่กรุงเทพมหานครแสนจะวุ่นวาย สักพัก..........

เห็นยายรูปที่ 8 แล้ว คิดถึง ย่าเราจัง รักย่าที่สุดในโลก...
  คำสั่ง โหวต
0 คะแนน โดย jellyboom เมื่อ 1 เดือนที่แล้ว
ไร้ ซึ่ง สา สัญ สำ นึก !!

เราเป็นไททรงดำ (◡‿◡✿)

  คำสั่ง โหวต
0 คะแนน โดย picgoroo เมื่อ 1 เดือนที่แล้ว
-*-
ลื้อกับยองต่างกันตรงไหนอะ
  คำสั่ง โหวต
0 คะแนน โดย picgoroo เมื่อ 1 เดือนที่แล้ว
-*-
ภาษา=ภาษาพูด+เขียน  คนภาคเหนือส่วนมากอ่านออกทุกคน
  คำสั่ง โหวต
0 คะแนน โดย nuningka เมื่อ 1 เดือนที่แล้ว
รักไม่เป็นแค่เรื่องบังเอิญ รักเชื่อมใจไว้ด้วยกัน มีเพียงแต่ใจที่รู้ใครคือผู้อยู่ในฝัน เธอคือคนนั้นที่ฉันรอ..
สวยงามและมีสาระดีจังเรยคร้า ขอบคุณนะคร้า อิอิ เด๋วบวกให้
  คำสั่ง โหวต
0 คะแนน โดย busoh_sensen เมื่อ 1 เดือนที่แล้ว
ภาษากายสอนใจภาษาไทยสอนเธอภาษาพ่อเธอเหรอสอนเธอหลายใจ
+ไปวะ เหอๆ
  คำสั่ง โหวต
0 คะแนน โดย Peekaka เมื่อ 1 เดือนที่แล้ว
นตฺถิ ตณฺหาสมา นที แม่น้ำเสมอด้วยตัณหาไม่มี

เป็นบทความที่น่าสนใจมากครับ เพลงประกอบไพเราะมาก +2 ครับ
  คำสั่ง โหวต
0 คะแนน โดย beergarden เมื่อ 1 เดือนที่แล้ว
ฝนตกขี้หมูไหล คนไฉไลก็เลยมารวมตัวกัน
อยากหนีไปอยุ่ สิบสองปันนา 
  คำสั่ง โหวต
0 คะแนน โดย ปลาทอง.99 เมื่อ 1 เดือนที่แล้ว
    คำสั่ง โหวต
0 คะแนน โดย _1234 เมื่อ 1 เดือนที่แล้ว
เป็นยอง อะ ฟังได้แต่พูดไม่เป็น
  คำสั่ง โหวต
0 คะแนน โดย fafha เมื่อ 1 เดือนที่แล้ว
ชอบมากครับ
  คำสั่ง โหวต
0 คะแนน โดย picgoroo เมื่อ 1 เดือนที่แล้ว
-*-
คนลื้อเวลาคุยกันสำเนียงน่ารักมาก  (สาวยองสวยทุกคน)
คุณต้อง ล็อกอิน จึงจะวิจารณ์กระทงได้
เรื่องล่าสุด: สังคมศาสนา


กระทงล่าสุดโดย: ปองพล